หลังจากไม่ได้เจอกันมาเป็นเวลาเกือบสามปี เพื่อนชาวสเปนแต่เรียนและทำงานในเยอรมันก็ทักแชททางเฟสบุ๊คมาหาพวกเราสามคนพร้อมๆกัน ในขณะที่พวกเราเที่ยวที่เวียดนามอยู่ ทักมาถามแลดูห่วงใยและกวนส้นตีนเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง จนในที่สุดมันก็บอกจนได้ว่า จะมาเที่ยวที่ไทยกับแฟนของมัน เพื่อนเราชื่อมานูล แต่พวกเราจะชอบเรียกมันว่าอีเอล (อีไม่ใช่ชื่อมันนะ คำนำหน้าที่เรียกเพราะหมั่นไส้ความกวนตีนมันล้วนๆ) และนี่คือสิ่งที่เรียนรู้จากที่ไม่ได้เจอมันมานานมาก
1. มึงหลงเมียมากๆ
การรับรู้ความหลงเมียของนางนั้นก็ตั้งแต่ในแชทละ อวยเมียสุดไปอีกอะไรอีก "พวกมึงจะต้องชอบแฟนกูแน่ๆ เพราะแฟนกูเป็นคนตลก อยู่ด้วยแล้วมีความสุขมากๆเลย" ตอนมึงพิมพ์ประโยคนี้มา ตามึงเป็นรูปหัวใจอยู่...ถูกมะ?
2. นึกว่าจะหื่น แต่มึงก็เลือกได้ดี
ตอนแรกก็คิดเลยนะว่าแฟนมันต้องทรงโต นมใหญ่ ก้นแน่นๆ ตัวสูงๆ เอ็กซ์ๆเซ็กซี่แบบสุดๆ เพราะดูจากรูปในเฟสแล้ว สไตล์นี้แน่ๆ ทำเอาชะนีไทยสามคนกังวลกันนิดหน่อยเลยว่าจะเข้ากันได้ไหมเนี่ย ไหนจากนิสัยสมัยตอนใช้ชีวิตร่วมแฟลตกัน มันก็ชอบชวนไปดูรูปก้นหญิงแบบตูมๆตลอด (แต่ไม่เคยเห็นมันจีบใครจริงๆนั่นแหละ) แต่พอมาเจอตัวจริงที่สนามบินแล้วเนี่ย ก็ทำให้ค้นพบอีกอย่าง..
3. แฟนมึงน่ารักขริง
แฟนมันน่ารักมาก มากจริงๆ เป็นคนตัวเล็กๆยิ้มเก่ง ชื่อซีรีน เป็นคนซีเรียที่ทำงานที่เยอรมันนั่นแหละนะ เป็นคนน่ารักมากจริงๆ ยอมใจ ผู้หญิงไม่น่าเลือกมึงเลยอีเอล
4. มึงสุภาพบุรุษขึ้น
คือปกติมันก็สุภาพบุรุษอยู่แล้วประมาณนึงสมัยที่คิดว่าเราเด็กกว่ามันมาก พอมันรู้ว่าอายุเท่ากันเท่านั้นแหละ เล่นกูยับเลย แกล้งสารพัด พอมาวันนี้เห็นมันเทคแคร์แฟนแล้วก็รู้สึกปลื้มปริ่ม ทั้งยกของให้ ดูแลทุกอย่างจริงๆ แผ่อานิสงค์มาถึงพวกกูด้วย เช่นพยายามจะมาช่วยเข็นรถที่ขวางที่จอดรถอยู่ แล้วก็ทำหน้าตกใจที่กูเข็นคนเดียวไหว มึงก็ตกใจซะเวอร์!!
5. มึงอ่อนโยนขึ้นหลังจากมีแฟน
ความอ่อนโยน อ่อนหวานนี้คือสิ่งที่ช็อคมากว่า มึงได้เบอร์นี้เลยหรอวะ? และก็ตามใจแฟนมากๆ ซีรีนเคยบอกเราว่า "เขาไม่รู้จักคำว่าโกรธหรอก" ในหัวกูแว้บภาพ สมัยมันทำกิ้งก่าหาย แล้วโวยวายลั่นสระว่ายน้ำมาแล้ว โคตรน่ากลัวเลยเหอะซีรีน แต่ก็นั่นแหละนะ เพื่อนกูอ่อนโยนเป็นแล้ว
6. มึงขี้บังคับเหมือนเดิม
ความขี้บังคับขี้สั่งของมันยังมีอยู่คงเดิม ไม่ว่าจะเป็นการนัดเจอกันที่มันพิมพ์มาบอกว่า "เราเจอกันทั้งสองวันเลยนะ ทั้งเสาร์ทั้งอาทิตย์เลย" แล้วมันก็จบประโยคไป นี่คือยังไง? ประโยคบอกเล่า? อีกนิดมึงก็สั่งกุละเนี่ย ไม่ถามซักหน่อยหรอว่า โอเคไหม? อะไรแบบนี้อ่ะ
ไหนจะตอนที่มันอยากได้กระเป๋าในราคาถูกๆ "เดินไปต่อราคาให้หน่อย เมื่อกี้ต่อละเหลือสามร้อย ทำไงก็ได้ให้ได้สองร้อยกว่าบาท ไป!!" เอลเดี๋ยวก่อน!! อิเห้!! อิป้าที่มึงให้กุไปต่อราคาด้วยคือหน้าโกรธ พร้อมเอาตีนเหวี่ยงพวกกูตลอดเวลาเลยนะ...
7. มึงเป็นอิสลาม
นี่เป็นเรื่องใหม่ที่ได้รับรู้ตอนที่กำลังจะสั่งหมูกรอบมากิน "อะไรก็ได้ แต่กูไม่เอาหมู!!" จบเลย พวกกูอดแดกหมูไม่พอ แดกเผ็ดก็ไม่ได้ แดกของจืดตลอดงานเลยค่ะ จริงๆเคยมีคนบอกมาแล้วนะว่าอิเอลเป็นอิสลามเพราะฉะนั้นมันเลยไม่กินเหล้า ไม่กินหมู ... แต่พวกกูไม่เชื่อ เพราะมึงเคยเทวอดก้ารัวๆสามสี่ช็อตให้พวกกูแดกแบบพร้อมจะมอม แล้วบอกว่ารสชาติดี คือยังไง?? หลอกพวกกูงี้??
8. แฟนมึงแดกยากมากกกก
อันนี้เป็นเรื่องพีคมาก แฟนนางน่ารักมากก็จริง แต่แดกยากมาก นั่นก็ไม่แดก โน่นก็ไม่เอา ไม่ลองอะไรที่กูอยากให้ลองแดกเลย Street food อร่อยๆก็ไม่กิน โว้ยยยย และรักสุขอนามัยมากๆ บางทีก็มากไปหน่อยนะ อาทิเช่น แดกน้ำจากขวด ไม่กินจากแก้ว หลอดต้องมีการซีนก่อนถึงปากมัน บลาๆๆๆๆ
9. มันยอมรับเราเป็นเพื่อนหว่ะ
อันนี้เป็นครั้งแรกเลยมั้งที่รู้สึกว่ามันเห็นเราเป็นเพื่อนจริงๆ ปกติมันจะคิดว่าเราเป็นเด็กไร้ทางสู้ ให้มันรังแกได้ รังแกก็อาจจะแรงไป เอาเป็นมันแกล้งเราได้ด้วยที่ว่าเมื่อก่อนโง่ภาษาแบบโง๊โง่ ตอบโต้มันไม่ได้ไง แต่มารอบนี้มันดูเห็นเราเป็นเพื่อนจริงๆ วางฟอร์มน้อยลง เมื่อก่อนนี่อะไรโ.่ๆนี่ไม่ทำเลยนะ แต่ตอนนี้ พอเข้าใจอะไรก็ผิดก็ด่าตัวเองเฉย "โอเค กูโง่เอง" พอได้ยินมันด่าตัวเองโง่แล้วก็รู้สึกประหลาดดีนะ ฮ่าๆๆๆ และที่สำคัญมันก็ยังจำได้ว่า พวกเรามักจะไปทำอาหารที่ห้องครัวตลอดๆ ซาบซึ้งน้ำตานองละเนี่ย
10. มันยอมหัดพูดไทย
มันยอมหัดพูดว่าสวัสดีครับ ขอบคุณครับ ทางเรานี่ปลื้มใจน้ำตาจะไหล คือเมื่อก่อนนี่มันแบบโคตรจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หาได้แคร์วัฒนธรรมกูไม่ แม้บางคำมันจะยอมแพ้แบบว่า กูพูดไม่ได้หรอก ยากเกินไป
10. มันยอมหัดพูดไทย
มันยอมหัดพูดว่าสวัสดีครับ ขอบคุณครับ ทางเรานี่ปลื้มใจน้ำตาจะไหล คือเมื่อก่อนนี่มันแบบโคตรจะไม่สนใจอะไรทั้งนั้น หาได้แคร์วัฒนธรรมกูไม่ แม้บางคำมันจะยอมแพ้แบบว่า กูพูดไม่ได้หรอก ยากเกินไป
11. มึงยังใช้ของแพงเหมือนเดิม
ด้วยที่ช่วงที่มันมาไทยนั้น สงกรานต์พอดิบพอดีเลย เราก็หมายมั่นปั้นมือจะพามันไปเล่นสงกรานต์ พอมาเจอกันปุ๊บ โอโห เสื้อคอโปโลยี่ห้อทอมมี่ กางเกงยีนส์ รองเท้าไนกี้ตัวท๊อป แค่เห็นรองเท้ามึงกูก็ไม่อยากจะพาตัวมึงไปโดนน้ำซักหยดแล้วเนี่ย ตัดภาพมาที่พวกกู เสื้อลายดอก กางเกงขาสั้น รองเท้าแตะ ในมือมีปืนฉีดน้ำ อิห่าาาาา มึงแคร์เทศกาลกูบ้างสิ แต่มันก็มากินข้าวด้วยกันก่อนจะลาไปว่ายน้ำที่โรงแรมแล้วมาเจอกันอีกทีตอนดึกๆที่ข้าวสาร ก็เลยย้ำมันไปเลยว่า รองเท้ามึงเนี่ย ถอดเก็บเลยนะ อย่าได้ใส่ออกมา เอาแบบพร้อมเปียก เข้าใจไหม? แล้วเหล่าชีนีไทยสามตัวที่เหลือก็ไง... เล่นน้ำตัวเปื่อยรอสามทุ่มไปค่ะ
12. ศึกษาเรื่องเหี้ยในประเทศกุเต็มไปหมด แต่เรื่องดีๆไม่รู้เลย
อันนี้คงไม่ต้องอธิบายอะไรมาก มันหวาดเสียวตลอดบนท้องถนนและแตกตื่น ตกใจที่เห็นคนขี่มอเตอร์ไซด์ไม่ใส่หมวกกันน็อค คนนั่งหลังกระบะแบบเปิดท้ายอีกต่างหาก จนถึงขั้นหันมาถามว่า นี่ผิดกฏหมายใช่ไหม แล้วทำไมตำรวจไม่จับ แค่จ่ายเงินก็จบใช่ไหม อันนี้ก็ตอบยอมรับอ่ะนะ ไหนจะเรื่องการโดนแท็กซี่โกงอันเลื่องชื่อ การซื้อของแบบต่อราคาที่ใช้งานพวกกูไปซื้อ โดยที่บอกว่า มึงคนไทยมึงซื้อได้ถูก โอเค กูไปดีลให้จ้าาา
13. มึงยังส้นตีนเหมือนเดิม และอัพเกรดความฮาขึ้นอีกจากการไปเที่ยวใต้(กูก็อัพเกรดเหมือนกัน ฮ่าๆๆๆ)
หลังจากมันและแฟนหายไปสองอาทิตย์ไปเที่ยวที่เกาะทางใต้ เราก็กลับมานัดเจอกันอีกรอบ ก่อนมันจะกลับเยอรมัน พอเจอกันเท่านั้นแหละ ซีรีนคือผิวแทนมากกกก แทนไปอีกกก สวยมากจนต้องเดินไปหาแล้วแบบ กรี๊ดดดด ผิวแทนสวยมากเลยยยย และพอหันไปเห็นอิเอล... "ทำไมมึงไม่แทนเลยอ่ะ" หันไปทักทายมันด้วยความกวนตีนซะหน่อย "ห๊ะ!! นี่มึงหาว่ากูไม่แทนหรอ แทนโว้ย แต่แทนไม่เท่าแฟนกูเฉยๆเหอะ กูไม่ชอบให้หน้ากูแทน กูชอบสีแค่นี้" โวยวายยกใหญ่เลยจ้า ส่วนซีรีนก็ขำกลิ้งเลยที่เราบอกว่าอิเอลไม่แทน ไอ้เราก็นึกว่ามันจะลืมไปบ้างแล้ว เดินไปร้านข้าว มันก็พูดขึ้นมาอีก "มึงว่าผิวกูไม่แทนนะ จำไว้ๆ กูจดความกวนตีนของมึงไว้แล้ว เจอกันแน่!" แค้นอะไรกูจังเนี่ย ตอนนั้นสะใจมากเลยอ่ะที่ได้แกล้งมัน ชัยชนะครั้งแรก วะฮ่าฮ่าฮ่าฮ่า
ไหนจะสกิลการเล่นตลกของมันที่อัพเกรดความฮาขั้นเทพ
พวกเรา : กินไก่มาแล้ว กล่องเล็กๆ
อิเอล : กล่องเล็กแค่นี้ใช่ไหม (แล้วมันก็ทำมือใหญ่มาก... กวนตีนกูละ)
ไหนจะสกิลการบ่นว่าโดนแท็กซี่หลอก วนรถทั่วกทม. ก็เลยบอกว่า "นี่แหละมึงถึงกรุงเทพที่แท้จริง"
มันก็ตอบกลับมาว่า "เออดิ นี่รู้จักทุกถนน ทุกซอยของกรุงเทพละ"
14. สกิลต่อราคาของมึงเยอะจนกูต้องกราบ
หลังจากกินข้าวเสร็จ ก็พาพวกนางไปหาซื้อของฝากกันที่เอเชียทีค การตามหาของฝากนั้นยากเหลือเกิน อิเอลก็มีสกิลการซื้อของได้กวนตีนมาก ไม่ว่าจะเป็น "เฮ้ยยย 200 ก็พอแล้ววัสดุแบบนี้" แม่ค้าจะเอามีดมาจามหน้ามึงละเนี่ย
แม่ค้า : ทุกอย่าง 100 จ้า
อิเอล : งั้นขอซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องนั้นหน่อย(แล้วมันก็ชี้ไปที่คอมพิวเตอร์ที่เขาไว้คิดเงิน.. กวนตีน!!)
พอมันซื้อของแล้ว มันก็ขู่คนขาย "ปีหน้าฉันจะกลับมาเยี่ยมเพื่อนฉันอีก ถ้าของนี่ไม่ดีจะเดินมาเอาเรื่อง"
หลังจากพยายามต่อราคาค่ากระเป๋าให้มันมาหลายร้านแล้ว แต่มันก็ถูกสุดได้ที่ 300 บาท แต่อิเอลมันไม่ยอม มันจะเอาให้ได้สองร้อยกว่าเท่านั้น แต่เราก็เดินคอตกไปหามันและบอกมันว่า ต่อไม่ได้ ได้แค่นี้แหละมึง มันก็ตัดสินใจ โอเค กูไปเอง โดนการหยิบเงินจำนวน 260 บาท ติดตัวไป และเดินไปหาอิป้าหน้ายักษ์คนเดิม และหายไปนานมากกกกกก จนไอ้เราก็ยืนคุยกับซีรีนหลายเรื่องมาก ทั้งเรื่องการส่งออกของ การซื้อของ บลาๆๆๆ (อยู่ๆก็คุยเรื่องมีสาระเฉยเลย) จนมันกลับมาพร้อมกับกระเป๋าที่มันอยากได้ อิเหี้ยยยยยย คือแบบ มึงทำได้ไงว้าาาาาา ถึงกับเดินไปหาซีรีนและพูดว่า "เธอเลือกผู้ชายได้ถูกต้องแล้ว"
15. มึงเขินเป็นอ่ะเอล
อันนี้พีคมาก ไม่คิดไม่ฝันว่ามันจะเขินเป็นกับเขาด้วย ขณะยืนเลือกสบู่กลิ่นผลไม้ต่างๆอยู่นั้น ซีรีนก็ชี้ให้พวกเราดูสบู่ทรงแปลกๆตะกร้านึง พวกเราก็มองไปเห็นเป็นสบู่รูปนม เวอร์ชั่นหัวนมชมพูซะด้วย พวกเราเลยเดินไปหยิบ แต่ซีรีนบอกว่า "ไม่ใช่อันนั้น ถัดไปอีกตะกร้านึง" ผ่าง!! สบู่ทรงอวัยวะเพศชายนะฮะ ซีรีนก็เดินไปหยิบขึ้นมาท้าพิสูจน์กลิ่น ว่ามันมีกลิ่นอะไร และบอกว่า "มีเพื่อนฉันคนนึงเหมาะกับสบู่รูปทรงนี้มาก" แล้วก็ปล่อยฮากัน ในขณะที่อิเอลได้หายสาบสูญไปแอบตัวเองอยู่ พอชะโงกหน้าไปเจอมัน มันก็ยืนหน้าแดงอยู่คนเดียว แหมมมมทีงี้ทำเขินเมื่อก่อนแกล้งกูหนักกว่านี้อีกอิบ้า!! เลยได้โอกาสแซวมันมั่ง "ว้ายยย หน้าแดงงงง"
16. คำถามแสลงใจจากซีรีน
อันนี้พีคมาก เราเจอกันได้ไม่นานมากนัก ซีรินก็แอบมาถามพวกเราว่า "พวกเธอมีแฟนกันไหม?"
ก็เลยตอบไปว่า "ไม่มีอ่ะ"
"ไม่มีใครมีเลยหรอ?" มีความถามย้ำ
"อ่าาา ใช่เลยยย ไม่มีใครมีเลย"
"What's wrong with you?" อืมมมมม อยากตะโกนถามโลกด้วยคำถามนี้เหมือนกัน แล้วถามมาแบบนี้ พวกตูจะตอบไงอ่ะ แต่ละคนก็พยายามสรรหาคำตอบเช่น "พวกเราบ้าๆบอๆอ่ะ" "เราชอบเที่ยวกันสามคนแหละมั้ง" ความจริงก็อยากจะตอบว่า "ไม่มีใครเอา" อยู่เหมือนกัน เอาเป็นว่า ลืมๆเรื่องที่พวกูไม่มีแฟนไปเถอะะะะะ
ก่อนจะลากันก็มีคุยๆกันเรื่องที่เราจะไปเรียนต่อที่ออสเตรีย ก็นัดแนะกันแหละว่าเรานัดเจอกันอีกนะ ที่เยอรมันก็ได้ ซึ่งเราไปอยู่ออสเตรียมันใกล้ทางใต้ของเยอรมัน ใกล้มิวนิคแบบมากๆ ซึ่งอิเอลกำลังจะย้ายไปทำงานตรงนั้น แต่เราก็อยู่แค่สี่เดือน แล้วย้ายไปเดนมาร์ก ซึ่งใกล้ซีรีนเพราะซีรีนอยู่ฮันโอเวอร์ ก็คุยกันว่าเดี๋ยวนั่งรถไฟไปนะ โน่นนี่นั่น อิเอลก็ขัดขึ้นมา "กูอยู่มิวนิค ไกลจากเดนมาร์กจะตาย กูไม่ไปหามึงหรอกนะ บายยย" แล้วก็ทำตัวกวนตีน เราก็เลยเดินไปหาซีรีน กอดคอซีรีนแล้วบอกว่า "งั้นเราไปเที่ยวกันสองคนก็ได้เนอะซีรีน" เท่านั้นหล่ะจ้า ทุกคนก็ฮาในขณะที่อิเอลก็เล่นใหญ่ และบอกว่า "อือหือออ มึงกวนตีนกูอีกแล้ว กูจดความกวนตีนของมึงเพิ่มลงในบัญชีกูละ" ฮ่าๆๆๆๆ สะใจที่กูกวนตีนมึงได้นี่แหละ กูฟินมากบอกเลย ก่อนที่จะนัดแนะกันว่า ไปเจอกันอีกทีที่เยอรมันนะ โดยที่หลีกับต้าจะต้องไปเจอด้วยกัน(กูบังคับให้พวกมึงไปหากูที่โน่นโว้ยยย) จากนั้นเราก็โบกมือลามานูเอลและซีรีนเป็นครั้งสุดท้ายในไทยนี่แหละ แล้วพบกันใหม่นะเพื่อน
ปล. การพาเพื่อนเที่ยวให้ถูกใจมันเนี่ย ยากมากเลยจริงๆ กลัวมันไม่ชอบ กลัวมันไม่สนุก ทุกอย่างจริงๆอ่ะ แต่ก็จบไปด้วยดีนะ พามันไปเที่ยวอัมพวา ดูดปากท่ามกลางหิ่งห้อยกันไป โดยมีหลีและต้าคอยทรานสเลทภาษาของลุงคนเรือให้ ฮ่าๆๆๆๆ
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น