In ๐ประสบการณ์๐ เขียนโปรแกรม ฟรีแลนซ์ รับงาน Freelance

Freelance 1st time: ประสบการณ์รับงานฟรีแลนซ์ครั้งแรก ก็เกือบจะฟรีแล้ว!!!



*บทความนี้เขียนไว้เพื่อเป็นประสบการณ์ของเรา และบทเรียนอะไรหลายๆอย่างในการรับงานฟรีแลนซ์เป็นครั้งแรก


มาจะกล่าวบทไปถึงงานฟรีแลนซ์งานนี้ ได้รับการติดต่อมาจากเพื่อนของหลีอีกที ที่ต้องการแอพพลิเคชั่นที่ไว้ใช้บนคอมพิวเตอร์เป็นแบบออฟไลน์สำหรับงานอีเวนท์งานหนึ่ง หลังจากที่ได้รับบรีฟมาประมาณนึงว่าต้องการงานประมาณไหน สเต็ปคร่าวๆ และถามส่วนของดีไซน์ว่าเขาดีไซน์มาให้นะ พวกเราแอม หลี ต้า ก็ช่วยๆกันตีราคาคร่าวๆไปให้ และคิดแล้วว่า เราพอทำได้หว่ะไอ้แอพนี่เนี่ย ไม่น่าเกินความสามารถโปรแกรมเมอร์เอ๋อๆอย่างพวกเราแน่ๆ ก่อนที่ทุกอย่างจะหายเงียบไปหลายเดือน จนพวกเราคิดว่า คงไม่ได้ทำงานนี้แล้วแหละ..

หลังจากเราลาออกจากงานมาได้แค่สามสี่วัน(คือเตรียมตัวจะไปเรียนต่อนั่นแหละ)... งานนี้ก็ติดต่อกลับมาอีกครั้ง เป็นบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่พอสมควรตั้งอยู่ใจกลางเมืองเลยแหละ โดยที่มีบริษัทเพื่อนหลีเป็นตัวกลางในการคุยกันระหว่างเราและลูกค้า และเราได้ทำการตกลงกับทางบริษัทเพื่อนหลีว่าเราต้องได้รับมัดจำในจำนวนเงินจำนวนหนึ่ง ซึ่งทุกอย่างมันโอเค เราเลยรับทำ โดยทางบริษัทเพื่อนหลีจะทำใบเสนอราคาอะไรทุกอย่างให้เรียบร้อย ทางเราก็ไม่มีความรู้ด้านนี้ก็โอเคที่มีตัวกลางมาจัดการให้ เพื่อนหลีก็พาเราซึ่งว่างงาน และต้าที่ทำงานที่บ้านเลยพอจะลาบุพการีมาได้ ไปประชุมคุยกับลูกค้าที่จะมาจ้างเรานั่นแหละ 

แต่การบรีฟงานคราวนี้นั้น... อ้าวเฮ้ยยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่หว่า~~ สิ่งที่ลูกค้าต้องการคือ แอพพลิเคชั่นครอบจักรวาล ใช้ได้ทั้งใน PC, Android, Apple และ WEB !!!!! หยุดก่อนข่าาาาา หยุดก่อนนนนน เรานี่ถึงกับเบรคคุณลูกค้าเลยจ้า ต้องนั่งอธิบายกันยาวเลยแหละว่า ทำไมมันไม่ได้ มันคนละแพลตฟอร์ม มันคนละราคา มันคนละเรื่องกันเลยโว้ยยยย!!! สรุปคือ ลูกค้าต้องการของใหญ่มาก โดยมีเวลาให้เราแค่สองอาทิตย์ในการทำ เฮลโหลลลล ไม่มีใครทำทันนะครับ เราต้องเคลียร์กับเขายาวมาก และที่สำคัญไม่มีดีไซน์อะไรมาให้เราเลย ไม่มีเลย มีแค่โลโก้และหน้าตามาให้แบบคร่าวๆ สรุปคือ เราก็ต้องมาทำดีไซน์เอง ซึ่งกินเวลา dev เราไปอีก ไหนจะมี Requirement ที่เพิ่มขึ้นมาอีก ซึ่งเราคิดว่ามันน่าจะไม่ใช่เรื่องใหญ่ สรุปว่าแม่งเรื่องใหญ่มาก(อันนี้คือเราก็ผิดเองที่ไม่สามารถคำนวณทุกอย่างให้มันถูกต้องได้) ซึ่งเราเป็นคนดีลงานโหด คือเรื่องเงินเราไม่ยอมเลยอ่ะ จนโดนลูกค้าแซะว่าเห็นแก่เงินเลยด้วยซ้ำ (คือก็ค่าเหนื่อยพวกกูไหมอ่ะ จะมาลดราคาให้มันก็ไม่ใช่ป่ะ นี่คือถูกสุดๆละ ค่าดีไซน์กูก็ไม่ได้คิดเลย)

การตกลงในการประชุมแรกคือ ... เราจะดีไซน์ไปให้เขาดูก่อนว่าโอเค เราถึงจะ dev ทุกอย่างให้เขาดูในสัปดาห์ถัดไป แต่กว่าจะสรุปดีไซน์กันได้คือ... สี่วันเลยเว้ย และเรากลัวมากว่าจะ dev ดราฟแรกไม่ทัน เราเลยพยายามจะให้เขาตัดสินใจเด็ดขาดมาเลยว่าต้องการประมาณไหนกันแน่ แต่ขณะที่คุยกันไปมาโดยผ่านกับทางบริษัทเพื่อนหลีด้วยนั้น 

อยู่ๆทางลูกค้าก็เทบริษัทเพื่อนหลีไปซะอย่างนั้น โดยที่จะติดต่อกับเราเองโดยตรงไม่ผ่านทางบริษัทเพื่อนหลี... และคือยังไงหล่ะ เงินมัดจำเราก็ยังไม่ได้ ไหนจะเรื่องสัญญาต่างๆ ใบเสนอราคาที่ทางบริษัทเพื่อนหลีจะจัดการให้ ทุกอย่างคือจบ เราต้องมาดีลกันเองทุกอย่าง 

ตอนนั้นเราได้ทำการส่งดีไซน์ซึ่งเป็นไฟล์ AI ไปให้กับทางลูกค้าแล้ว(ด้วยความโง่ที่แท้ทรู) เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจเรื่องดีไซน์ ซึ่งเขาขอไฟล์เราไป เพื่อที่จะได้เอาไปปรับดีไซน์เอง หลังจากส่งไฟล์ AI ไปแล้ว เราก็นึกขึ้นได้เรื่องเงินมัดจำต่างๆที่ตกลงกับบริษัทของเพื่อนหลีกับทางลูกค้า ลูกค้ากลับส่งเมลล์มาบอกพวกเราว่า "เราจะยกเลิกก็ได้นะ" WTF!!!!!!! คือตอนนั้นเป็นเวลา ห้าทุ่ม กับชะนีสามตัวที่นั่ง dev งานกันอดหลับอดนอน ขณะรอฟันธงดีไซน์ พอเห็นเมลล์ตอบเหมือนจะเทกันเท่านั้นแหละ เกรี้ยวกราด!! ห้วร้อนกันแบบจะบ้าตาย นอนกันไม่หลับยันตีสามตีสี่ ตอนนั้นคืออึ้งมาก รู้สึกว่าโง่มากที่ส่งไฟล์ดีไซน์ให้เขาไป และเขาก็จะมาเทกันแบบนี้เลย??? 

เช้าวันถัดมาเวลาแปดโมง(นี่จำเวลาได้ขึ้นใจ) มีเมลล์เข้ามาใหม่ บอกว่าเข้าใจผิดเรื่องของอีเมลล์ เขาโอเคที่จะจ่ายมัดจำให้เรา และให้เราเข้าไปประชุมกับเขา คุยกันเรื่องเงินและงานกันอีกรอบในวันประชุมดราฟแรก พวกเราตัดสินใจจะลุยกันต่อ ลองเสี่ยงไปซักตั้ง... โดยที่คราวนี้นั่งร่างสัญญากันเหนื่อยกว่า dev อีก พยายามเขียนทุกอย่างให้มันครอบคลุม ปรึกษาพี่ปรึกษาเพื่อน ปรึกษาแม่มทุกคนที่พอจะเคยผ่านงานพวกนี้มาบ้าง และเราพยายามจะให้ทางเขาเอาเครื่องที่จะใช้จริงมาลองกับโปรแกรมเราเพื่อที่ว่าเราจะได้เทสอย่างสบายใจ แต่เขาไม่สามารถเช่ามาให้เราลองได้เลย เลยจำเป็นต้องใช้เครื่องของต้าที่สเปคดูใกล้เคียงที่จะใช้จริงมากที่สุดในการเทสแทน

วันประชุมดราฟแรกพวกเราไปกันครบสามคนเลย กะไปไฟต์เต็มที่ เพราะคราวนี้เพื่อนหลีไม่ได้มาช่วยไฟต์แล้ว เราก็ต้องลุยกันเอง คุยไปคุยมาสรุปว่า เขาไม่สามารถจ่ายเงินค่ามัดจำให้เราได้ ถ้าจ่ายให้ เขาต้องออกเองก่อน ซึ่งจำนวนมัดจำที่เราขอไปเขาไม่สามารถจ่ายให้ได้ เพราะมากเกินไปที่เขาต้องควักเงินตัวเองมาจ่ายก่อน ในขณะที่เราคิดว่า จะเอาซักเท่าไหร่ก่อนดี ด้วยความจิตใจดีของหลี มีความสงสารมากเวอร์ ก็หันมาบอกเราว่า งั้นไม่ต้องเอามัดจำก็ได้ ยังไงเขาก็ต้องเซ็นสัญญาที่เราร่างมา เขาไม่เบี้ยวหรอก ส่วนวันที่เราต้องรับเงินจากเขาก็ต้องเลื่อนไปหลังจบงานอีเวนท์ประมาณสองสัปดาห์... เราก็โอเคเว้ย แม้จะแอบตะหงิดในใจนิดๆ โดยที่การประชุมครั้งนี้เราก็สามารถสรุปดีไซน์จากเขามาได้ แต่มีสัญญากันอยู่ว่า เขาต้องส่งข้อมูลในแอพมาให้เราและเซ็นสัญญากลับมาให้เราภายในวันถัดไป...

วันถัดไปเขาส่งข้อมูลมาเว้ย แต่...ไม่มีสัญญาเซ็นกลับมาให้เรา ทางเราก็ทวงกลับไปนั่นแหละ ทางเขาก็ตอบกลับมาว่าหัวหน้าไปตปท.กว่าจะกลับก็สิ้นเดือนซึ่งไม่ทันงานที่จัด ไหนจะต้องแปลงสัญญาทั้งหมดเป็นภาษาอังกฤษ ต้องรอให้ทางฝ่ายกฏหมายพรูฟก่อน เขาเลยขอเป็นใบเสนอราคาแทน ทางเราก็โอเค ถ้าวุ่นวายขนาดนั้นเราจะเตรียมใบเสนอราคาไปให้นะ โดยก็ต้องมาเสียเวลาทำใบเสนอราคาอีกหนึ่งระลอก.... 

วันประชุมดราฟสองผ่านไปได้ด้วยดี มีแก้ไขเพียงเล็กๆน้อยๆเท่านั้น ในเรื่องตรรกะภายในแอพเพียงนิดหน่อย(แต่คือเหนื่อยมาก เจอหน้าเพื่อนทุกวันเลยค่ะช่วงนั้น) ในวันส่งมอบงาน ทุกอย่างโอเค เราสอนเขาลงโปรแกรมบนเครื่อง สอนอ่านคู่มือ ทุกอย่างโอเคมากจนเราสบายใจไปหนึ่งเปราะว่าเขาจะลงโปรแกรมเองได้ชัวร์ๆ

คืนก่อนวันงานช่วงสามสี่ทุ่ม กลายเป็นว่าสเปคเครื่องมีปัญหา หน้าจอมีปัญหา พวกเราก็พยายามแก้ปัญหาทุกอย่างให้ ถึงขนาดที่นั่งทำไฟล์ใหม่ให้แทบหมดเพื่อแก้ปัญหาให้เขา จนไม่ได้นอนเลยด้วยซ้ำ และส่งไฟล์ไปให้เขาใหม่เพื่อที่เขาจะได้นำไปใช้ได้ คือเราก็ช่วยสุดความสามารถจริงๆ แต่เขากลับตอบมาว่า "ไม่มีเวลา setup" เฮ้ยยยย แล้วไงอ่ะ คือหมายความว่ายังไง เราก็อยากให้เขาเอางานเราไปใช้ไง และเราก็ช่วยแก้ปัญหาแบบสุดๆแล้ว แต่ถ้าคุณไม่ให้ความร่วมมือเราก็ไม่รู้จะทำยังไง เราก็เลยตัดสินใจอยู่เฉยๆ โดยที่บอกทุกคนเลยว่า ทำใจไว้เลยว่า งานนี้เราอาจจะฟรีแล้วก็ได้ ถ้าเขามาอ้างว่าเขาไม่ได้ใช้งานของเรา แล้วจะไม่จ่ายเงินเราแบบนี้...

พวกเราตัดสินใจอยู่กันแบบนิ่งๆรอวันที่เขาระบุว่าจะนำเงินมาขึ้นเช็คให้...ระหว่างนั้นมีการติดต่อมาว่าจะนำข้อมูลจากแอพไปใช้ เราก็รู้สึกว่า โอเคเขานำงานเราไปใช้ เราก็ไม่น่าจะฟรีหล่ะมั้ง ก็มีเปอร์เซ็นได้เงินเพิ่มมาซักสิบจากศูนย์ สรุปว่าพอถึงวันนั้นที่เงินควรจะเข้า ทางบริษัทนั้นได้โทรมาบอกว่า... เช็คมีปัญหาค่ะ ขอเลื่อนเป็นปลายสัปดาห์แทน... อิทางเราก็มีความใจฝ่อ คือไว้ใจไม่ได้เลยอ่ะ จนกว่าเงินจะเข้าจริงๆ พอเช็คเข้าก็ยังไม่ไว้ใจอีกอยู่ดี คือมันติดหยุดยาวสามวันเลยอ่ะ กว่าที่เงินจะเข้าจริงๆ สรุปว่า.... ไม่ฟรีเว้ยยยยยยย ได้เงินเว้ยยยยย ค่อยมีกำลังใจในการหางานฟรีแลนซ์มาทำอีก เอาเป็นว่า งานแรกของพวกเรา สำเร็จแล้วนะเว้ยพวก!!!

ข้อคิดสำหรับงานนี้ : นอกจากคำนวณค่าแรงแล้ว ต้องคำนวณค่าเสียเวลา เสียเงินค่ารถ ค่านัดทำงาน อีกมากมายบวกไปด้วย ไม่งั้นไม่คุ้ม // ไม่รับงานเร่งแล้วโว้ย // ไม่มีสัญญาไม่ว่าหรอก แต่ถ้าเงินมัดจำไม่เข้า กูไม่ทำงาน // เราควรหัดเห็นแก่ตัว อย่าเห็นแก่คนอื่นมากเกินไป สังคมมันโหดร้าย เราต้องอย่าทำให้ตัวเองเสียเปรียบเป็นอันขาด // ถ้ามีงานเพิ่ม คิดเงินเพิ่มไปเลยรัวๆ ไม่งั้นไม่คุ้มเหนื่อยเลยอ่ะ 

สู้ต่อไปเถอะนะชาวฟรีแลนซ์ ~~~~~~~~~

ปล. สาบานสิว่าฉันลาออกจากงานแล้ว... ว่างได้สี่วัน ที่เหลือทำงานรัวๆ ทำงานจบก็เรียนภาษาต่อทันที //ไหนเล่าเวลาว่างของผม??


15 August 2017 We become successful freelancers



Related Articles

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น