ตัดสินใจเขียนเรื่องมีสาระ(หวังว่ามันจะมีประโยชน์)ขึ้นมา เพราะว่ามีคนทักมาถามค่อนข้างเยอะเลยว่า เรียนภาษาเยอรมันที่เกอเธ่เป็นยังไงบ้าง? สอนยังไง? บรรยากาศเป็นยังไง? ถามกันตั้งแต่เพิ่งเข้าไปเรียนแค่วันเดียวด้วยซ้ำ เพราะฉะนั้นบล๊อกตอนนี้จะมาเล่าการเรียนภาษาเยอรมัน ที่ซึ่งเพิ่งเรียนจบไป 1 คอร์สเท่านั้นเอง
มาทำความรู้จักกับสถาบันเกอเธ่ก่อนดีกว่า บรรยากาศของสถาบันจะเป็นลักษณะของบ้านที่มีอายุกว่าร้อยปี ต้นไม้เยอะแยะร่มรื่น(อยากเห็นรูปก็เสิร์ชใน Google เอาค่ะ) มีร้านกาแฟชื่อร้าน Kaffeepause (คาฟเฟ่เพาเซอะ) คอยให้บริการเวลาต้องการคาเฟอีนด้วย ไหนจะมีห้องสมุดให้บริการยืมหนังสือ ซีดี หนัง บอร์ดเกมส์(ยืมได้เป็นเดือนเลยเน้อ) มีโซนให้เล่นเกมส์ด้วยนะ แน่นอนว่าส่วนใหญ่เป็นภาษาเยอรมันเนอะ ถ้าหิวก็มีร้านข้าวขายแต่จะแนวผูกขาดตลาดซะหน่อย เพราะมันมีแค่ร้านเดียว ส่วนใครที่สงสัยว่าฉันจะเดินทางมาอย่างไร ง่ายสุดคือ MRT ลุมพินีทางออกที่ 2 และขึ้นพี่วิน 20 บาทถึงเกอเธ่เลย แต่จะเดินก็ได้ไม่ไกลมาก
พูดถึงคอร์สบ้างดีกว่าว่าคอร์สแต่ละคอร์สเป็นยังไง มีกี่เวล อะไรยังไง จะได้ไม่เข้าใจผิดแบบเราเนอะ ต้องเข้าใจก่อนว่าที่เกอเธ่จะแบ่งเลเวลของภาษาดังนี้ A1 A2 B1 B2 C1 C2
ไอ้เจ้าเลเวล A เนี่ยก็จะเป็นแก๊งแม่บ้านสายฝ.ที่ต้องสอบให้ผ่านเพื่อขอวีซ่าแต่งงานนั่นเองนะฮะ
ส่วนเลเวล B เนี่ยก็คือเหล่านักศึกษาที่อยากจะไปเรียนต่อในประเทศที่ใช้ภาษาเยอรมันเป็นภาษาราชการ เกณฑ์ส่วนใหญ่ของมหาลัย(คอร์สที่ไม่ใช่ international) ก็จะรีเควสที่เวลประมาณนี้
ส่วน C นี่คือเหล่าเทพเจ้าที่เรียนด้านภาษาโดยตรง หรือในสาขาที่ต้องมีความเข้าใจลึกซึ้งของภาษาเป็นพิเศษ โดยแต่ละเลเวล เวลาเรียนก็จะแบ่งไปอีก
A1.1-A1.4 ถึงจะจบกระบวน A1
A2.1-A2.4 ถึงจะสำเร็จการศึกษา A2
B1.1-B1.6 ถึงจะบรรลุ B1
B2.1-B2.6 อรหันต์ B2 ไปเลย
C1.1-C1.4 ยินดีด้วยคุณได้เลื่อนขั้นเป็น C1
C2.1-C2.4 เอาไปเลยค่ะ ถ้าคุณจะตรากตรำมาเบอร์นี้แล้ว เอา C2 ไปพร้อมการกราบจากดิฉันเลยค่ะ
A2.1-A2.4 ถึงจะสำเร็จการศึกษา A2
B1.1-B1.6 ถึงจะบรรลุ B1
B2.1-B2.6 อรหันต์ B2 ไปเลย
C1.1-C1.4 ยินดีด้วยคุณได้เลื่อนขั้นเป็น C1
C2.1-C2.4 เอาไปเลยค่ะ ถ้าคุณจะตรากตรำมาเบอร์นี้แล้ว เอา C2 ไปพร้อมการกราบจากดิฉันเลยค่ะ
เข้าใจเรื่องเลเวลกันแบบคร่าวๆไปแล้วมาในส่วนของการเรียนบ้าง ต้องแบ่งคอร์สออกเป็นสองแบบก่อนเลยคือ คอร์สเร่งรัด(80 ชม.) และคอร์สธรรมดา(40 ชม.) ดูชม.ในวงเล็บดีๆนะ ราคาที่ต่างกันก็ขึ้นอยู่กับชม.ที่เรียน และช่วงเวลาที่เรียนด้วย อ้อ!! หนังสือไม่รวมในคอร์สนาจา ซื้อแยกนาจา ราคาก็แล้วแต่เลเวลกันไป
คอร์สเร่งรัด(80 ชม.) มี 2 แบบเนอะ แบบแรกคือ เรียนจ.-ศ. แบบยาวๆ เรียนทีครึ่งวันเลยมีสองช่วงเวลาคือ 8.30-12.00 และ 13.00-16.30 ใช้เวลาเพียง 1 เดือน (ใครทำงานก็ลาออกมาเรียนค่ะ) และแบบสองคือเรียนช่วงเย็นจ-พฤ วันละชม. ช่วงเวลาคือ 18.00-19.30 ใช้เวลา 3 เดือน (ใครเลิกงานทันก็ไปค่ะ แต่อิฉันไม่ทัน ถ้าจะทันต้องลาออกเช่นกันค่ะ) ในคอร์สเร่งรัดนี้จะเรียนทีละ 2 จุดเลยจ้า เช่น A1.1-A1.2 /A1.3-A1.4 / etc. เพราะฉะนั้น 2 คอร์สก็เท่ากับเราบรรลุอรหันต์ 1 เลเวล ใครอยากไวๆคอร์สเหล่านี้มีความเหมาะสมยิ่งนัก (ช่วยๆกันรีเควสคอร์สรอบดึกกันหน่อยนะ อยากเรียนช่วง 20.00-21.30 มากๆเลย ปิ๊งๆๆๆๆ //กระพริบตาออดอ้อน)
คอร์สธรรมดา(40 ชม.) มีทั้งแบบที่เรียนช่วงเย็นในวันธรรมดา 18.00-19.30 เรียนอาทิตย์ละ 2 วัน ต้องไปดูในหน้าเว็บกันเอาเองนะฮะว่ามีวันไหนอะไรยังไงบ้าง และเรียนในช่วงสุดสัปดาห์มีทั้งวันเสาร์เช้า เสาร์บ่าย อาทิตย์เช้า อาทิตย์บ่าย คอร์สนี้ก็เหมาะกับชาวสโลว์ไลฟ์ ค่อยๆไปไม่ต้องรีบ (ฉันรีบแต่ต้องเรียนคอร์สนี้ เพราะเวลาว่างไม่ตรงจริงๆ)
รายละเอียดคอร์สต่างๆรวมทั้งราคาไปดูได้ที่หน้าเว็บของ Goethe-Institut เลยจ้าาา
วิธีการสมัครก็ง่ายดายแค่โทรไปสำรองที่นั่ง หรือจะอีเมลไปก็ได้ อย่างเราเราก็อีเมลไปจองนะ อย่าตกใจไปถ้าพบว่าคอร์สเต็มแล้ว ลงสำรองไปเถอะ เลเวลแรกๆยังไงก็มีโอกาสได้เรียนสูง ถ้ามีคนลงชื่อสำรองปริมาณมากพอจะเปิดหนึ่งห้องก็เปิดห้องให้เรียนกันเลยจ้า ซึ่งห้องนึงเรียนกันไม่เกิน 18 คนนะ ส่วนเรื่องจ่ายเงินเนี่ย ต้องไปจ่ายเงินสดที่สถาบันเท่านั้น ดูเวลาให้บริการด้วยนะ แต่ละวันจะมีช่วงเวลา และควรไปล่วงหน้าก่อนปิดซักครึ่งชั่วโมงก็จะเป็นการดี ที่นี่เรื่องตรงเวลาเป็นสิ่งสำคัญนะจ๊ะ ไปดูที่ลิ้งนี้เลย เวลาให้บริการของห้องทะเบียน
ลักษณะการเรียนการสอน ออกตัวก่อนว่า เพิ่งเรียนไปแค่คอร์สแรกคอร์สเดียว ในส่วนของคอร์สเริ่มต้น(A1.1) มีการจัดห้องเรียนตามอายุ ทำให้เป็นเพื่อนกับสมาชิกในห้องไม่ยากเลย และไอ้คอร์สแรกเนี่ยอาจารย์ก็จะให้เราคุยกันในเรื่องพื้นฐานทั่วๆไป ก็คุยกันทุกครั้งที่เรียนเลย ทั้งจับคู่แบบ partner เล่นเกมส์แบบ team หรือแบบ random และที่จะเจอบ่อยๆก็คือการไป interview เพื่อนๆในห้องนี่แหละ ไม่ต้องกลัวอายที่จะพูดเลย เพราะพูดเยอะจนเลิกอายไปเองโดยปริยาย เรียนครบทุกทักษะเลยหล่ะ ฟัง พูด อ่าน เขียน หลังจบบทก็จะมีการสอบทุกครั้ง ถ้าตั้งใจเรียนและทบทวนก็สบายมากอยู่แล้ว ปกติคอร์ส A1.1 กับ A1.2 จะใช้หนังสือเล่มเดียวกัน ก็ใช้ยาวๆไปทั้งสองคอร์สนั่นหล่ะ
ก่อนจะเริ่มเรียนสิ่งที่ทุกคนควรจะพกไปก็คือ แฟ้ม หนังสือเรียนด้วยนะ ที่ให้พกแฟ้มไปก็เพราะว่า การเรียนการสอนมาเป็นชีท และมีปริมาณมหาศาล ทางที่ดีที่สุดคือได้ชีทมา เขียนวันที่กำกับไว้ หรือจะเขียนลำดับของชีทที่ได้ไปก็จะดีมากเลย มันจะช่วยให้เราเรียงชีทและทบทวนได้ง่ายขึ้นด้วย
ก่อนจะเริ่มเรียนสิ่งที่ทุกคนควรจะพกไปก็คือ แฟ้ม หนังสือเรียนด้วยนะ ที่ให้พกแฟ้มไปก็เพราะว่า การเรียนการสอนมาเป็นชีท และมีปริมาณมหาศาล ทางที่ดีที่สุดคือได้ชีทมา เขียนวันที่กำกับไว้ หรือจะเขียนลำดับของชีทที่ได้ไปก็จะดีมากเลย มันจะช่วยให้เราเรียงชีทและทบทวนได้ง่ายขึ้นด้วย
คอร์ส A1.1 เรียนอะไรบ้าง?? จะค่อยๆไล่ไปในแต่ละหัวข้อเนอะ เผื่อบางคนมีพื้นฐานมาบ้างแล้วและคิดว่าอาจจะไม่ต้องเริ่มต้นใหม่ ก็ข้ามA1.1ไปได้เลย
บทแรกก็จะเกี่ยวกับการทักทาย แนะนำตัว ชื่ออะไร มาจากไหน สบายดีไหม ฝึกฟังและออกเสียงพยัญชนะและสระ การใช้ Sie กับ du เรื่องของชื่อประเทศต่างๆ ภาษาต่างๆ รวมทั้งการผันกริยา(ซึ่งก็แฝงมากับการพูดและเรียนของเราตลอดนั่นแหละ เพราะฉะนั้นแรกๆพูดตามไปเรื่อยๆ จำไปเรื่อยๆ ไม่ต้องไปหาเหตุผลใดๆ เดี๋ยวก็จะเข้าใจเองนั่นแหละ)
บทที่สองเกี่ยวกับ เพื่อนและครอบครัว คำศัพท์เกี่ยวกับครอบครัวก็มาในบทนี้แหละ รวมทั้งการแบ่งเพศคำนามก็เริ่มที่บทนี้เหมือนกัน เริ่มสอนการใช้ er sie ในการพูดถึงบุคคลที่สามและผันกริยาเช่นเคย มีเรื่องคำถามทั่วๆไปที่ไว้สอบถามข้อมูลส่วนตัว พวกเบอร์โทร สถานภาพครอบครัว ภูมิลำเนาอะไรประมาณนั้น แน่นอนว่าเรื่องของเบอร์โทรมาขนาดนี้ เรื่องตัวเลขก็เริ่มเรียนที่บทนี้แหละ (ใครปิ๊งคนในห้องก็พุ่งไป interview เลยค่ะ ได้รู้ข้อมูลส่วนตัวมหาศาลเลยแหละ ถึงกับได้เบอร์เลยนะจะบอกให้ ฮ่าๆ)
บทที่สามเรื่องของกินและเครื่องดื่ม แน่นอนว่าคำศัพท์พวกผลไม้ อาหาร เครื่องดื่ม การซื้อของ การอ่านและฟังราคาสินค้าก็บทนี้แหละจ้า เรื่องจำเพศก็จะมีความเข้มข้นตั้งแต่บทนี้เป็นต้นไปเลย เล่นเกมส์รับบทเป็นแม่ค้าบ้างอะไรบ้าง interviewเพื่อนๆ เรื่องอาหารที่ชอบและเครื่องดื่มที่ชอบ มีการผันกริยาที่เกี่ยวข้องกับการซื้อสินค้า ฝึกอ่านตัวเลข ลักษณะนามต่างๆ เอาเป็นว่า ถ้าต้องไปซื้อของก็น่าจะพอไปซื้อได้แหละ(มั้ง)
บทที่สี่เรื่องของบ้านและที่พักอาศัย คำศัพท์เกี่ยวกับห้องต่างๆในบ้าน แน่นอนว่าจำเพศของพวกนางด้วยเช่นเคย เรียนรู้คำ adjective ต่างๆ พวก ถูก แพง มืด สว่าง ฯลฯ แน่นอนว่ามี interview เรื่องบ้านเพื่อนอีกเช่นเคย(บังคับให้เจือกอะไรกันขนาดนี้ ฮ่าๆ) เรื่องตัวเลขก็จะเริ่มเข้าหลักพัน หมื่น แสน ล้านแล้ว ให้สัมพันธ์กับราคาบ้านที่เพิ่มมากขึ้นนั่นเอง แต่ไอ้เจ้าบทที่สี่เนี่ยมีมาเรียนต่อช่วงหลังๆ ตอนขึ้น A1.2 ด้วย เป็นการทวนทุกๆอย่างนั่นแหละ ก็จะมีเรื่องการเช่าบ้าน ให้เช่าบ้าน ป้ายประกาศต่างๆ เรียกได้ว่า ไปหาบ้านอยู่ก็จะไม่ใช่เรื่องยากอีกแล้วแหละ(มั้ง)
และนั่นคือทั้งหมดที่เรียนไปใน A1.1 ส่วน A1.2 จะเป็นยังไงนั้นนน เดี๋ยวพอจบคอร์สจะมาอัพเดทให้อ่านกันเนอะ ส่วนใครมีข้อสงสัยใดๆ ไปถามกันได้ที่เพจ หญิงไทยใจงาม's Diary จะอินบ๊อกมาก็ได้ หรือถ้าเขินอายทักทายเมนชั่นกันในทวิตเตอร์ก็ได้ฮะ @apollopma //กราบแบบไทยสวยงาม
09.07.2016-17.09.2016[A1.1] @ Goethe-Institut
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น