หญิงไทยใจงาม(มั้ง)ตะลุยแดนเบียร์ ep6:Thanks,supermarket ชีวิตนี้ดีได้เพราะซุปเปอร์!!

เรื่องของกินเราจะยังไม่จบง่ายๆ แน่นอนว่านอกจากอาหารในเมนซ่าแล้ว การใช้ชีวิตปกติของพวกเราก็คือการทำอาหารกินเอง ต้าผู้ซึ่งขยันในการเข้าครัวโคตรๆจะเป็นผู้คิดเมนู(ตัดภาพมาที่เราคือนอนโง่ๆบนเตียง หาของไร้ประโยชน์กินไปนานแล้ว) และก็มีการแวะซุปเปอร์มาร์เก็ตกันทุกเย็นหลังเลิกงาน ซุปเปอร์มาร์เก็ตที่เมืองเบรเมนเท่าที่เห็นว่ามีเยอะมากๆมีอยู่ 2 เจ้า คือ Penny กับ Rewe ขนาดใหญ่เล็กก็ปะปนกันไป แอบเห็น Lidl บ้างแค่ที่สองที่เอง(ค่อนข้างร้างด้วย) แต่ถ้าเป็น Penny กับ Rewe นี่เยอะกว่ามาก


ซุปเปอร์มาร์เก็ตแถวบ้านพวกเราที่ใกล้ที่สุดคือ Penny ห่างแค่ 1 ป้ายแทรมเท่านั้นเอง เพราะฉะนั้นพวกเราก็จะไปใช้บริการบ่อยมาก เทคนิคการซื้อของซุปเปอร์มาเก็ตของเราก็ไม่ได้มีอะไรมาก เรามีหน้าที่ประหยัดเงินอย่างถึงขีดสุดอยู่แล้ว เพราะฉะนั้น... อยากกินอะไรก็จิ้มเลย จากนั้นดูราคา  หันมาถามความเห็นของเหล่าสมาชิก โดยจะมีประโยคเด็ดคือ... "จะไปเที่ยวไหม ยุโรปอ่ะ เก็บเงินไว้ดิ!!" ไอ้เจ้าของแพงนั้นก็จะหมดสิทธิในการถูกพวกเรากินไปโดยปริยาย 

ของเด็ดในซุปเปอร์มาเก็ตที่เราชอบกันมากก็คือ น่องไก่ส่วนติดปีกที่หมักเครื่องเทศแล้ว ขายเป็นแพ๊คราคาน่ารักกรุบกริบ และเป็นที่มาของอาหารกลางวันของเราในช่วงนั้นไปเลย บังเอิญว่าหุงข้าวแล้วข้าวเหลือ แถมมีไก่ที่อบไว้แล้วยังไม่ได้กิน ก็เลยตัดสินใจหอบไปกินที่มหาลัย สรุปว่ามันเวิร์กมากกก เพราะมื้อนึงนี่ต้นทุนต่ำสุดๆ ข้าวก็กินข้าวแบบถูกๆ ไม่ต้องหอมมะลิหรอก อันไหนถูกสุดก็อันนั้น แม้มันจะเป็นสีน้ำตาลๆหรืออาจจะแข็งๆไปบ้าง แต่พวกเราก็กินกันได้ ไก่อบเนี่ยเค้าก็ปรุงรสชาติมาแล้ว แถมซื้อมาตอนลดราคาอีก แถมไอ้ที่ลดราคานั่นก็หารสามอีก แล้วยังจะหารสองมื้ออีก โอโหวววว ถูกจนไม่รู้จะถูกยังไง เพราะฉะนั้นหากเรามีเวลาเราก็จะทำข้าวไปกินกันเองซึ่งก็เป็นอาหารง่ายๆ พกไปง่ายๆ  อันนั้นคือแบบอย่างหรูหราไฮโซ

ส่วนใหญ่พวกของสดจะลดราคาช่วงใกล้หมดอายุ ก็ถือโอกาสนี้แหละ!! ไหนจะบรรดาของแช่แข็งที่มีให้เราเลือกสรรมากมาย แต่เมนูเด็ดที่มักจะแบกเอาไปกินมื้อกลางวันก็คงจะไม่พ้น พิซซ่าหน้าผักโขม(ต้องหน้านี้ด้วยนะ เพราะมันถูกสุด) ราคาต่อกล่องนั้นย่อมเยาว์จนเหลือเชื่อ กล่องนึงพิซซ่าสามถาด ถาดนึงกินกันสามคนต่อหนึ่งมื้อ สามถาดก็สามวัน ประหยัดยิ่งกว่าอยู่ประเทศไทยซะอีกนะ คิดดู๊!!! แม้ไม่มีเนื้อสัตว์ เราก็ซื้อไส้กรอกมาหั่นใส่ อาจจะเติมชีสลงไปบ้างนิดหน่อย แค่นี้ก็ฟินแล้ววว  กินจนหน้าแทบจะเหมือนพิซซ่าไปข้าง 

บางทีถ้าหลีตื่นเช้าขึ้นมานางก็จะทำแซนวิชไปให้พวกเรากินกันตอนกลางวันแบบฟินๆ เครื่องแน่นๆ ใส่ทั้งไข่ ไส้กรอก มะเขือเทศ ผักกาด ชีส ขนมปังอบแบบกรอบๆหน่อย อือหืออออ แต่พอช่วงหลังๆมาม่าเหลือเยอะมาก เลยตัดสินใจ พกมาม่าไปกินเป็นมื้อกลางวันซะเลย ไร้สารอาหารสิ้นดี แต่เราก็กินครับบบบบ อาจจะดูรันทดกันซักหน่อยกับมื้อกลางวัน แต่มื้อเย็นจัดเต็มจัดแน่นทุกวัน มื้อเย็นต้องครบ 5 หมู่ รวมทั้งของหวานด้วยนะจ๊ะ 

นอกจากอาหารคาวที่เป็นปัจจัยสำคัญในการดำรงชีพแล้ว อาหารหวานจะพลาดไปได้อย่างไรกัน ปกติพวกเราก็กินอาหารหวานกันก่อนออกจากบ้านทุกวันอยู่แล้วหล่ะนะ อาหารมื้อเช้าพวกเราก็คือ ขนมปังทาแยม ไม่ก็ทาเนลทูล่า(ปลอม) ไม่งั้นก็ทูโทนเลย บางทีก็มีซื้อพวกสเปรดมาทากินบ้างพอให้ได้เนื้อได้หนัง

ส่วนของหวานที่พวกเราเสพติดกันมากก็คือไอศครีม คนที่นี่จะเรียกว่า IES เป็นไอติมเจลาโต้ รสชาติแต่ละร้านก็จะต่างๆกันไป อร่อยบ้าง แพงบ้าง กากบ้าง ก็ไปลองกันมาแทบจะทุกร้าน เพราะเห็นทีไรก็อดใจไม่ได้ทุกที อากาศหนาวเราก็กิน ไม่แคร์ใดๆทั้งนั้น ราคาโดยทั่วไปก็จะไม่เกินหนึ่งยูโร ส่วนความอร่อยก็ต้องตัดสินกันไป โดยปกติพวกเราจะชอบไปกินร้านที่อยู่ city center เพราะว่าราคาไม่ถึงหนึ่งยูโร และเนื้อไอติมก็อัดแน่นมาก ถ้ารสสตอเบอร์รี่ก็มีเนื้อสตอเบอร์รี่เยอะมาก เอาเป็นว่าคุ้มสุดเลยละกันนน ถ้าได้ไปเดินเล่นในเมืองก็ต้องแวะไปซื้อมากินทุกรอบไป แต่ก็จะมีอีกร้านที่สถานีรถไฟด้านในสุดที่คนขายเป็นชายหนุ่มที่คัดหน้าตามาแล้วแน่ๆ ทั้งร้านมีแต่พนังงานชายที่หน้าตาดี งานดีจริงๆค่ะ ยอมใจ แม้จะสู้ร้านกลางเมืองไม่ได้ แถมยังราคาแพงกว่า แต่ก็พอจะแก้ขัดและทำให้เรารักการกินไอติมขึ้นมามากไปอีกค่ะ 

@Penny Supermarkt